วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Present Continuous Tense

Present Continuous Tense

1. รูปแบบประโยค

ประโยคบอกเล่า

ประธาน (Subject)กริยา (be + กริยาเติม ing)
Warawanis smiling.

ประโยคคำถาม

Beประธาน (Subject)กริยาเติม ing
IsWarawansmiling?

ประโยคปฏิเสธ

ประธาน (Subject)benotกริยาเติม ing
Warawanisnotsmiling.

2. หลักการเติม ing ท้ายกริยา

กริยาโดยทั่วไป เติม ing ท้ายคำได้ทันที แต่ มีข้อยกเว้น ดังนี้
  1. คำพยางค์เดียวที่มีสระตัวเดียวและมีตัวสะกดตัวเดียว และถ้ามีเป็นคำที่มีมากกว่า 1 พยางค์ ต้องออกเสียงหนัก(stress)ที่พยางค์หลัง ต้องเพิ่มตัวสะกดอีก 1 ตัว แล้วจึงเติม ing เช่น อ่านเพิ่มเติม
    run -> running
    stop -> stopping
    begin -> beginning
    แต่ open -> opening (เพราะออกเสียงหนักที่พยางค์หน้า)
  2. คำที่ลงท้ายด้วย e และไม่ออกเสียงตัว e ให้ตัด e ทิ้งก่อน แล้วจึงเติม ing เช่น
    make -> making
    use -> using ใช้
  3. คำที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วจึงเติม ing เช่น
    tie -> tying
    die -> dying
    lie -> lying

3. การใช้ Present Continuous Tense

  1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นในขณะที่กำลังพูด มักจะมีคำว่า 
  2. now เพื่อบอกว่ากำลังทำอยู่ หรือ กำลังเกิดขึ้น
  3.  (กริยาบางตัวไม่สามารถใช้ Tense นี้ได้)
    เหตุการณ์กำลังเกิดขึ้น
    You are studying English now.
    You are not running now.
    Are you sleeping?
    They are reading their books.
    They are not watching television.
  4. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังทำอยู่ในช่วงนี้ แต่อาจจะไม่กำลังเกิดขึ้น
  5. ในขณะที่พูดก็ได้ เช่น ประโยคต่อไปนี้ อาจจะพูดในขณะกำลังนั่งคุยกันเล่น
  6.  เป็นการเล่าสู่กันฟังว่า ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ คำว่า now ในภาษาอังกฤษ
  7.  อาจจะหมายถึง เดี๋ยวนี้ วันนี้ อาทิตย์นี้ เดือนนี้ ปีนี้ ก็ได้ (แต่ชีวิตนี้มันจะยาวไปนะ)
    เหตุการณ์เกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่พูด
    I am studying to become a doctor. (ผมกำลังเรียนหมอ)
    I am not studying to become a dentist. (ฉันกำลังเรียนเป็นหมอฟัน)
    I am reading the book Kathi's Happiness by Ngampan. 
    I am not reading any books right now. (ตอนนี้ไม่ได้อ่านหนังสืออะไรเลย)
    Are you working on any special projects at work?
    Aren't you teaching at the university now?
  8. (ผมกำลังอ่านหนังสือเรื่องความสุขของกะทิ แต่งโดย งามพรรณ --
  9.  ขณะพูดไม่ได้กำลังอ่าน แต่เล่าให้ฟัง การอ่าน อาจต้องใช้เวลา 2-3 วัน)
  10. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
    เหตุการณ์จะเกิดเร็ว ๆ นี้
    • I am meeting some friends after work. (หลังเลิกงานเดี๋ยวผมไปหาเพื่อนหน่อย)
    • I am not going to the party tonight. (คืนนี้ผมไม่ไปงาน)
    • Is Somsak visiting his parents next weekend? (เสาร์-อาทิตย์นี้ 
    • สมศักดิ์จะไปหาพ่อแม่เขาหรือเปล่า)
    • Isn't he coming with us tonight? (เขาไม่ไปกับเราคืนนี้หรือ?)
  11. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นเหตุการณ์ที่มักจะไม่ค่อยดี เช่น
  12.  มาสายเสมอ เป็นต้น ข้อสังเกตุคือ จะมีคำว่า always หรือ constantlyอยู่ด้วย
  13.  เพื่อเน้นว่า เกิดเป็นประจำ(น่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน) ในความหมายนี้
  14.  จะคล้ายกับ Present Simple ในกรณีพูดสิ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นนิสัย
  15.  แต่ความหมายของ Present Continuous Tense นี้ เป็นไปในทางลบ
    เหตุเกิดประจำ น่าเบื่อหน่าย
    • She is always coming to class late.
    •  (เจ้าหล่อนมาสายประจำ)
    • He is constantly talking. I wish he would shut up.
    •  (หมอนั่นคุยไม่หยุด อยากให้หุบปากบ้าง)
    • I don't like them because they are always complaining.
    •  (ผมไม่ชอบพวกนั้นเลย ชอบบ่นเป็นประจำ)

4. คำกริยาที่ใช้ใน Present Continuous Tense ไม่ได้

กริยาบางตัวไม่สามารถนำมาใช้ใน Present Continuous Tense ได้
 ต้องใช้ในรูปของ Present Simple Tense เท่านั้น กริยาพวกนี้
 ส่วนใหญ่เป็นกริยาที่เป็นนามธรรม แสดงความเป็นเจ้าของ หรือ 
กริยาที่เกี่ยวกับความรู้สึก ดังนี้ อ่านเพิ่มเติม

คำกริยาที่เป็นนามธรรม (Abstract Verbs)

to be, to want, to cost, to seem, to need, to care, to contain, to owe, to exist...
am needing some money.ไม่ถูก
need some money. ถูกต้อง (ตอนนี้ผมต้องการเงิน -- กำลังขาดเงิน)

คำกริยาที่แสดงความเป็นเจ้าของ (Possession Verbs)

to possess, to own, to belong...
am owning a big car. ไม่ถูก
own a big car. ถูกต้อง (ผมเป็นเจ้าของ(มี)รถคันใหญ่)

คำกริยาที่แสดงอารมณ์ความรู้สึก (Emotion Verbs)

to like, to love, to hate, to dislike, to fear, to envy, to mind...
am loving you. ไม่ถูก
love you. ถูกต้อง

ระวัง กริยาบางตัวกำกวม สามารถเติม -ing ได้ และ ไม่ได้

กริยาพวกนี้ เช่น to appear, to feel, to have, to hear, to look, to see, to weigh...
to appear:
Donna appears confused. เป็นความรู้สึกดูสับสน เติม -ing ไม่ได้
My favorite singer is appearing at the jazz club tonight. ปรากฏ-กำลังแสดง 
เติม -ing ได้
to have:
I have a dollar now. มี เป็นเจ้าของ ความหมายเช่นเดียวกับ possess เติม 
-ing ไม่ได้
I am having fun now. กำลังสนุก เติม -ing ได้
to hear:
She hears the music. ได้ยินเสียงกับหู เติม -ing ไม่ได้
She is hearing voices. ได้ยินเสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน เสียงจินตนาการไปเอง
 รู้สึกอยู่คนเดียว
She hears something others cannot hear. She is hearing voices in her mind.
to look:
Nancy looks tired. ดูราวกับว่า - เติม -ing ไม่ได้
She seems tired.
Farah is looking at the pictures. มองด้วยตา กริยาอย่างนี้ เติม -ing ได้
to miss:
John misses Sally. คิดถึง เป็นความรู้สึก เติม -ing ไม่ได้
Debbie is missing her bus to Phuket. พลาด ตกรถ หรือ ไปไม่ทัน อย่างนี้
 เติม -ing ได้
to see:
I see her. เห็นด้วยตา เติม -ing ไม่ได้
I am seeing the doctor. ไปหาหมอ อย่างนี้ เติม -ing ได้
He is seeing ghosts at night. เห็นในสิ่งที่ชาวบ้านไม่เห็นกัน 
หรือเป็นการมองไปในอนาคาต ลักษณะนี้ เติม -ing ได้ เช่น
to smell:
The coffee smells good. มีกลิ่น เติม -ing ไม่ได้ เป็นความรู้สึก
I am smelling the flowers. ดม กำลังดมได้ อย่างนี้ เติม -ing ได้
to taste:
The coffee tastes good. รสชาด เติม -ing ไม่ได้ กาแฟนี่รสดี
I am tasting the noodles. ชิม เติม -ing ได้ กำลังชิมก๋วยเตี๋ยว ว่าอร่อยหรือไม่
to think:
He thinks the test is easy. คิดว่า มีความหมายคล้ายคำว่า consider เติม -ing ไม่ได้
She is thinking about the question. กำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เติม -ing ได้
to weigh:
The table weighs a lot. น้ำหนักของสิ่งของ โต๊ะนี่หนักมาก เติม -ing ไม่ได้
She is weighing herself. ชั่ง เธอกำลังชั่งน้ำหนัก อย่างนี้เติม ing ได้